จากสารเคมีมากกว่า 10,000 ชนิด

ที่ใช้ในการผสมเครื่องสำอางมีเพียง 11 ชนิดเท่านั้นที่ถูกห้ามหรือจำกัดโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหพันธรัฐ ในทางตรงกันข้าม FDA, Environmental Protection Agency และ Consumer Product Safety Commission มีอำนาจกว้างขวางในการรับรองความปลอดภัยของสารเคมีในผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ตัวอย่างเช่น FDA มีอำนาจในการตรวจสอบสารเคมีในใบสั่งยา[31]  และยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์[32]  และสารเคมีที่พบในอาหาร[33]  และ EPA มีอำนาจในการตรวจสอบสารเคมีในยาฆ่าแมลงที่ใช้ในบ้านเรือน และในฟาร์ม[34] อันตรายในเครื่องสำอาง และกำหนดขีดจำกัดสำหรับสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในอาหาร [35]  ในปี 2559 สภาคองเกรสได้ขยายอำนาจของ EPA ในการตรวจสอบสารเคมีในน้ำยาทำความสะอาด สี ตัวทำละลาย และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคอื่นๆ อีกมากมาย [36] นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังตามหลังประเทศคู่ค้าระหว่างประเทศของเราอย่างมากในเรื่องการควบคุมเครื่องสำอาง กว่า 40 ประเทศได้ดำเนินการเพื่อแบนหรือจำกัดสารเคมีหรือสารปนเปื้อนมากกว่า 1,400 รายการในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย รวมถึงสารเคมีที่เชื่อมโยงกับมะเร็ง อันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ และอันตรายต่อระบบประสาท [37]  สารเคมีทั้งหมดที่ระบุใน AB 2762 ได้ถูกห้ามโดยสหภาพยุโรปแล้ว รวมถึง isopropylparaben และ isobutylparaben, dibutyl phthalate และ diethylhexyl phthalate, [ 38]ปรอท, [39]ฟอร์มาลดีไฮด์ และ PFAS จำนวนมาก ประเทศอื่นๆ ได้จำกัดการมีอยู่ของสารเคมี เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์[40]  และกรดเปอร์ฟลูออโรออกทาโนอิก (PFOA) [41]

โพสต์โดย : midnight เมื่อ 11 ก.ค. 2566 17:44:37 น. อ่าน 124 ตอบ 1